จากภาพ
คือรูปแบบของการเกิดเทรนขาขั้นและสิ้นสุดลงของเทรน เรามาสังเกตจากภาพไปพร้อม ๆกันนะครับ
สังเกตในรูปจะมีคำว่า
HH (Higher Highs ) แปลว่า จุดสูงสุดที่สูงขึ้นกว่าจุดสูงสุดเก่า
HL (Higher Lows) แปลว่า จุดต่ำสุดที่สูงขึ้นกว่าจุดต่ำสุดเก่า
ใช่ละครับสิ่งที่ผมจะบอกคือ การเกิดกราฟลักษณะจากภาพซ้ายมือ คือธรรมชาติของการเกิดเทรนขาขึ้น และ สิ้นสุดเทรน จากเริ่มต้นเลยกราฟได้เกิดจุดต่ำสุด HL และได้ทำ HL สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกันกับ HH ที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนมีการเกิด HH ที่ต่ำกว่าเกิดขึ้น กราฟถึงสิ้นสุดการเป็น เทรนขาขึ้น
ตัวอย่างกราฟจริงที่เป็นลักษณะกราฟขาขึ้นหรือ Uptrend
Downtrend หรือ เทรนขาลง
สังเกต ในรูปจะมีคำว่า
LH (Lower Highs ) แปลว่า จุดสูงสุดที่ต่ำกว่าจุดสูงสุดเก่า
LL (Lower Lows) แปลว่า จุดต่ำสุดที่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดเก่า
พฤติกรรมกราฟแบบนี้คือพฤติกรรมของกราฟเทรนขาลง ซึ่งก็จะมีพฤติกรรมตรงข้ามกันกับเทรนขาขึ้นที่จุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดจะต่ำ ลงไปเรื่อย ๆ
ตัวอย่างกราฟจริงที่เป็นลักษณะกราฟขาลงหรือ Downtrend
Side Ways ถือเป็น สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดอยู่บ่อยครั้ง
พฤติกรรมของกราฟที่เป็นลักษณะ Sideways
- ไม่มีจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดที่เป็นทิศทางแน่นอน
- มักเกิดขึ้นหลังจากการขึ้นหรือลงของกราฟที่เป็นเทรนมานาน
- เป็นจุดที่มีนัยยะสำคัญเพราะเมื่อเวลากราฟหลุดออกไปจะกลายเป็นแนวรับหรือแนวต้านที่แข็งแรงทันที
ตัวอย่างกราฟจริงที่เป็นลักษณะ Sideways
สิ่งเปรียบเทียบง่ายๆ สำหรับการเกิดเทรนทั้งขาขึ้นและขาลง
* ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ “การก้าวขึ้นบันได”
บทสรุปเรื่อง เทรน คืออะไร ?
- เทรนคือทิศทางของตลาด
- ตลาดไม่ได้มีทิศทางเคลื่อนไหวไปเป็นเส้นตรง
- เทรนคือทิศทางของจุดสูงสุดและสุดต่ำสุดรวมกัน
ทิศทาง ของเทรน
- เทรนขาขึ้นคือการเกิดขึ้นของจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดอย่างต่อเนื่อง
- เทรนขาลงจะเป็นการตรงข้าม คือ จะมีการลดลงของจุดสูงสุดและต่ำสุดลงไป
Sideways Trend หรือ ไซด์เวย์
Sideways คือ การที่กราฟเกิดขึ้นและมีจุดสูงและต่ำสุดในแนวระนาบเดียวกัน( Range ) แต่จุดสูงสุดและต่ำสุดจะไม่เท่ากัน จะไม่มีจุดใดที่มีความต่อเนื่องขึ้นเรื่อยๆหรือลงเรื่อยๆ