หัวข้อที่จะศึกษากันเรื่องแท่งเทียน
จะมีรูปแท่งเทียน 10 แบบที่ควรค่าแก่การจดจำ และสามารถนำไปใช้ซื้อขายได้จริงซึ่งจะแบ่ง รูปแบบแท่งเทียนเหล่านี้จะเป็นรูปแท่งเทียนที่ให้ข้อมูลว่าราคาอาจจะมีการกลับตัว โดยสามารถแบ่งรูปแท่งเทียนออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
รูปแบบที่เราใช้พิจารณาการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น 5 รูปแบบ (ใช้เพื่อหาจังหวะเข้าซื้อหุ้น)
รูปแบบที่ใช้พิจารณาการกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง 5 รูปแบบ (ใช้เพื่อหาจังหวะขายหุ้นทำกำไร)
การเทรดส่วนใหญ่ผู้คน 80% เมื่อเข้ามาในตลาดสักระยะ จะพบว่าตัวเองไม่ได้เทรดตามเทรน แต่จะเสาะหาวิธีทำกำไรตลอดเวลา และจะกลับกลายเป็นว่าตัวเองเทรดสวนเทรนไปโดยปริยาย แต่แท่งเทียนสามารถดัดนิสัยบุคคลเหล่านี้ให้กลายเป็นคนมีวินัยขึ้นได้ เพราะแท่งเทียนเหล่านี้คือแท่งเทียนกลับตัว การใช้แท่งเทียนกลับตัวนั้นจะต้องรอให้เป็น จะต้องไตร่ตรองกับสภาพตลาดช่วงนั้นว่าสมควร ออกออเดอร์ หรือ ทำการซื้อขายฝั่งใด แท่งเทียนแหล่านี้คือแท่งเทียนกลับตัว ที่เกิดขึ้นบ่อยในตลาดที่สุดและมีข้อมูลในศึกษาเพิ่มเติมอย่างแพร่หลาย
แท่งเทียนกลับตัว Reversal Candle Stick
ที่จริงแล้วสำหรับแท่งเทียนกลับตัวนั้นมีหลายรูปแบบมาก มีชื่อเรียกมากมาย สิ่งที่จะได้เรียนรู้จากนี้ 10 กว่าหน้า เป็นแท่งเทียนที่เกิดขึ้นบ่อยในตลาด Forex ซึ่งเป็นแท่งเทียนที่ ต้องอาศัย แนวรับหรือแนวต้านประกอบในการเข้าออเดอร์ อีกทั้งยังต้องรอ สัญญานคอนเฟิร์มจากแท่งถัดไปอีกด้วย แท่งเทียนไม่ได้บ่งบอกเสมอไปว่ากราฟจะกลับตัว เพราะมันไมได้ง่ายขนาดนั้น แต่หากถ้าเหตุผลประกอบ เช่น เกิดขึ้นในเทรนขาขึ้น เกิดขึ้นในทามเฟรมใหญ่ๆ เกิดขึ้นในแนวต้านใหญ่ๆ มันก็มากพอที่เราจะเทรด Sell มันต้องใช้เหตุผลหลายๆอย่างไม่ใช่เกิดแท่งเทียนแล้วจะออกเออเดอร์เลย สำหรับบทนี้ก็จะยกตัวอย่างแท่งเทียนที่กลับตัว และ ตรงข้ามกัน อยู่ 5 คู่นะครับเช่น
- Inverted Hammer ตรงข้ามคือ Shooting Star
- Piercing Pattern ตรงข้ามคือ Dark Could Cover
- Bullish Engulfing ตรงข้ามคือ Bearish Engulfing
- Bullish Harami ตรงข้ามคือ Bearish Harami
- Moning Star ตรงข้ามคือ Evening Star
เหตุผลโดยสรุป ที่นักลงทุนส่วนใหญ่นิยมใช้กราฟแท่งเทียน
- กราฟแท่งเทียน (Candlesticks) มีข้อมูลเพียงพอสำหรับการวิเคราะห์เพื่อใช้สำหรับการซื้อขายเพราะ ประกอบไปด้วย ราคาเปิด (Open Price) , ราคาปิด (Close Price) , ราคาสูงสุด (High Price) , ราคาต่ำสุด (Low Price) โดยนำข้อมูลทั้งหมดมาสร้างเป็นกราฟแท่งเทียนเพียงแท่งเดียว
- กราฟแท่งเทียน 1 แท่ง สามารถอธิบายอารมณ์และการซื้อขายของนักลงทุนในตลาดได้เป็นอย่างดี
- กราฟแท่งเทียนสามารถบอกได้ว่าการซื้อขาย ณ ขณะนั้น ใครมีพลังมากกว่ากันระหว่าง ตลาดขาขึ้นและขาลง
สามารถบอกได้ว่า ช่วงเวลาต่อจากนี้ไป มีโอกาสที่กราฟจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง ซึ่งหมายความว่า ตัวกราฟแท่งเทียนสามารถอ่านสัญญาณซื้อขายได้ด้วยตัวของมันเอง โดยไม่จำเป็นต้องตัวช่วยอื่นๆเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ซื้อขายการเทรดโดยแท่งเทียนนั้น หากเรานำข้อมูลที่เราได้ศึกษาพฤติกรรมของแท่งเทียนไปผสมผสานกับเทคนิค อื่นๆ เช่น แนวรับแนวต้าน Trends Fibonacci Charts Pattern ฯลฯ มันจะมีประสิทธิภาพในการเทรดมากยิ่งขึ้น แล้วจะพบว่าการเทรดจะยิ่งสนุกขึ้นไปเรื่อยๆ